อ่านสักนิด…ก่อนจ้างนักสืบ
มีเรื่องราวของลูกค้าอยู่ท่านนึง ได้ติดต่อมาทางสำนักงานนักสืบเพื่อต้องการมอบหมายงานให้กับทีมงานเป็นเคสเกี่ยวกับเรื่องสืบชู้สาว ให้เข้าใจง่ายๆก็คือให้ติดตามดูพฤติกรรมสามีว่าแอบคบใครอยู่หรือเปล่า แต่สิ่งที่ต้องการแชร์ประสบการณ์ของลูกค้าท่านนี้ให้ทราบ ไม่ใช่เรื่องของการติดตามดูพฤติกรรมสามีของลูกค้าท่านนี้ แต่เป็นเรื่องของความโชคร้ายบนความโชคร้าย ที่พูดแบบนี้ก็คือ.
ลูกค้าท่านนี้มีปัญหาที่กลุ้มใจเกี่ยวกับสามีตัวเอง สงสัยว่าน่าจะมีการแอบคบกับใครอยู่ เพราะพฤติกรรมหลายๆอย่างเปลี่ยนไปจึงลองหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ก็ได้ไปเจอกับนักสืบคนหนึ่ง และหลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับทางนักสืบ และได้มีการตกลงว่าจ้างกันเป็นที่เรียบร้อย โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องชำระเงินเต็มจำนวนก่อนเริ่มงาน ด้วยความที่ไว้ใจและกลุ้มใจเรื่องของสามีว่าสิ่งที่เค้าสงสัยอยู่มันเป็นจริงหรือไม่ จึงตัดสินใจโอนเงินให้อย่างไม่ลังเล ผลปรากฏว่าหลังจากที่โอนเงินไปแล้ว ก็ไม่ได้ทำงานให้อย่างที่ตกลงกันไว้ จึงโทรกลับไปเพื่อจะสอบถามว่า รับเงินไปแล้วทำไมยังไม่ทำงานให้ซักที แต่ก็ติดต่อไม่ได้ทั้งเบอร์ที่เคยให้ไว้รวมทั้งทางไลน์ จึงมั่นใจว่าถูกหลอกแน่ๆ จึงไปแจ้งความกับทางสถานีตำรวจ แต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ยังเอาตัวมิจฉาชีพคนนี้มาดำเนินคดียังไม่ได้ เสียเงินถูกหลอกให้โอนเงินไปแล้ว และในขณะเดียวกันปัญหาที่กังวลอยู่ก็ยังไม่ได้พิสูจน์ออกมาให้เป็นรูปธรรมเพื่อให้หายสงสัยว่าทางสามีแอบคบใครอยู่จริงหรือเปล่า ก็เลยตัดสินใจหานักสืบทางอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง ก็ไปเจอนักสืบรายใหม่ ก็ได้มีการพูดคุยถึงรูปแบบวิธีการทำงานและเงือนไขการว่าจ้าง ซึ่งเงื่อนไขและรูปแบบการทำงานหลายๆอย่างที่ได้พูดคุยกับทางนักสืบรายใหม่ก็ไม่แตกต่างจากคนก่อนหน้า แต่สิ่งที่ทำให้ทางลูกค้ารู้สึกมั่นใจว่าจะไม่โดนหลอกซ้ำสองเหมือนคราวที่แล้วก็คือ นักสืบคนนี้สามารถเดินทางไปพบลูกค้าเพื่อพูดคุยรายละเอียดเรื่องงานและเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทางลูกค้า ทางลูกค้าก็เลยนัดเจอกับนักสืบคนนี้ที่ห้างสรรพสินค้าที่หนึ่ง ก็มีการพูดคุยและอธิบายรายละเอียดการทำงานและเงือนไขข้อตกลงการว่าจ้าง จนเป็นที่เข้าใจกันทั้งสองฝ่ายเรียบร้อยแล้ว ทางนักสืบก็เรียกเก็บเงินจากผู้ว่าจ้างเต็มจำนวนก่อนเริ่มงาน หลังจากชำระเงินไปแล้ว ก็มีการลงพื้นที่ทำงานให้กับลูกค้าจริง แต่เป็นลักษณะการทำงานแบบ “นั่งเทียนเขียนข่าว” หรือทำงานแบบพอเป็นพิธี นั่นก็คือ มีแต่ถ่ายรูปรถสามีของลูกค้าที่จอดในที่ทำงานในตอนเช้า ส่วนในระหว่างวัน เวลาเป้าหมายไปติดต่องานหรือไปทำธุระส่วนตัว ก็รายงานข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริงและไม่เคยมีการถ่ายรูปเป้าหมายให้ดูเลย มีแต่รายงานด้วยวาจาว่าตอนนี้สามีทำธุระอยู่ตรงนั้นอยู่ตรงนี้ แต่ในความเป็นจริงไม่ได้อยู่ในสถานที่ๆทางนักสืบนั้นกล่าวอ้าง เพราะทางผู้ว่าจ้างสามารถรู้และตรวจสอบได้ด้วยตัวเองในบางครั้งว่า ในแต่ละวันสามีตัวเองจะไปทำธุระหรือไปทำกิจกรรมที่ไหนบ้าง มาถึงตอนนี้นอกจากผู้ว่าจ้างจะเสียเงินฟรีๆไปแล้วถึงสองครั้งยังต้องเสียความรู้สึกเป็นของแถมกลับมาอีกด้วย
จึงอยากจะขอเตือนทางลูกค้าทุกท่านที่ต้องการจะขอใช้บริการนักสืบ ควรจะตรวจสอบบุคคลที่ท่านต้องการร่วมงานด้วยว่ามีความน่าเชือถือเพียงใด และเงื่อนไขการชำระเงินเป็นอย่างไร ไม่งั้นท่านอาจจะเสียเงินไปฟรีๆ โดยไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลยแบบลูกค้าท่านนี้.